หน้าแรก/บทความ/แนะ 5 วิธีการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน สำหรับธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร/

แนะ 5 วิธีการจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน สำหรับธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร

02 พฤษภาคม 2567
แชร์บทความนี้

     ในขณะที่การท่องเที่ยวเติบโตขึ้นทุกวัน กระแสการท่องเที่ยวก็แปรเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่สิ่งหนึ่งยังคงอยู่คือการสร้างคาร์บอนฟรุตปรินต์และขยะจำนวนมหาศาลของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ในส่วนของผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารซึ่งเกี่ยวกับการท่องเที่ยวนั้น จำเป็นที่จะต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมากเพื่อที่จะอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค ทำให้เกิดขยะอาหาร หรือ Food Waste ซึ่งอุตสาหกรรมโรงแรมนั้นสร้างขยะมูลฝอยมากกว่า 130 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ การจัดการขยะที่ไม่ถูกต้องยังส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อม และถึงแม้ว่าจะมีการนำขยะมารีไซเคิล แต่จำนวนขยะนั้นก็มากเกินกว่าที่จะถูกจัดการได้ 

ความสำคัญของการจัดการขยะอาหารในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร

     อย่างที่ทราบกันดีว่าธุรกิจการโรงแรมและร้านอาหารจำเป็นที่จะต้องจัดหาทรัพยากรอาหารจำนวนมาก เพราะการให้บริการในลักษณะนี้นั้นจำเป็นจะต้องจัดเตรียม Supply ให้มากกว่า Demand หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ “เหลือดีกว่าขาด” โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้บริการบุฟเฟต์ All-you-can-eat ที่ทำให้เกิดการเตรียมอาหารมากเกินไป (Over Prepare) เพื่อสามารถตักอาหารได้อย่างไม่จำกัด ยิ่งไปกว่านั้น ยังต้องใช้อาหารที่สดใหม่เพื่อคุณภาพและสุขอนามัยที่ดี แต่ในขณะเดียวกัน การให้บริการในลักษณะนี้ทำให้เกิดอาหารเหลือ ทั้งในส่วนที่ผู้บริโภคตักมาเองแล้วรับประทานไม่หมด และยังมีอาหารเหลือจากทางโรงแรมหรือร้านอาหารตระเตรียมเอาไว้ให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค

     แล้วอาหารเหล่านั้นไปไหน? แน่นอนว่าเพื่อสุขอนามัยที่ดีและความสดใหม่ของอาหาร ผู้ประกอบการก็อาจจำเป็นจะต้องทิ้งอาหารที่เหลือจากการบริโภคไป เกิดเป็นขยะอาหารหรือที่เราเรียกกันจนชินปากว่า ‘Food Waste’ นั่นเอง รายงานดัชนีขยะอาหาร ปี 2564 (Food Waste Index Report 2021) ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) ระบุว่า ทั่วโลกมีปริมาณขยะอาหารกว่า 931 ล้านตันในปี 2562 และด้วยจำนวนขยะอาหารที่มากมายก็ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกจำนวนมหาศาลตามไปด้วย ซึ่งส่งผลให้สถานการณ์ของภาวะโลกร้อนย่ำแย่ลงเช่นกัน

     จากข้อมูลข้างต้น เราจะเห็นได้ว่าธุรกิจการท่องเที่ยวมีส่วนในการสร้างขยะจำนวนมหาศาลให้กับโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เรียกได้ว่าปัญหาขยะอาหารนั้นเป็นปัญหาระดับโลกเลยทีเดียว ดังนั้นผู้ประกอบการเองก็จำเป็นที่ต้องตระหนักถึงปัญหาการผลิตอาหารออกมาเกินกว่าความต้องการของผู้บริโภค ให้ความสำคัญกับการพยายามลดจำนวนขยะอาหาร และคิดหาวิธีที่จะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุดและเห็นผลได้จริง อย่างไรก็ตาม การจัดการขยะอาหารนั้นเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ไม่ยากก็จริง แต่ก็จำเป็นที่จะต้องจัดการอย่างถูกวิธี มิเช่นนั้นจะยิ่งก่อมลพิษให้แก่โลก

แล้วผู้ประกอบการธุรกิจการโรงแรมและร้านอาหารจะทำอย่างไรเพื่อรับมือกับขยะหรือเศษอาหารเหลือทิ้ง? TAT Academy เชิญชวนทุกคนมาร่วมหาคำตอบกันได้ที่นี่!

5 วิธีจัดการขยะอาหารอย่างยั่งยืน

1. ยกระดับวัตถุดิบเหลือทิ้งให้เป็นเมนูแสนอร่อย

ที่มา: <a href="https://yorkmix.com/york-restaurant-unveils-unique-sustainable-menu-with-foraged-ingredients-and-carrot-top-cocktails/#google_vignette">YorkMix</a>
ที่มา: YorkMix

     ในการปรุงอาหารแต่ละครั้งนั้น มักจะมีบางส่วนของวัตถุดิบที่เหลือจากการปรุง และถูกมองว่าเป็นเศษขยะในทันที แต่แท้จริงแล้วเศษอาหารเหล่านั้นอาจจะไม่ใช่ เศษ “เหลือทิ้ง” เสียทีเดียว การจะลดจำนวนขยะอาหารนั้นเราควรใช้วัตถุดิบอย่างคุ้มค่าและดึงเอาประโยชน์ของมันออกมาให้ได้เยอะที่สุด ดังนั้นถึงแม้ว่าวัตถุดิบเหลือทิ้งอาจดูหมดประโยชน์แล้ว แต่ก็ยังสามารถนำมาประกอบอาหารอย่างอื่น ๆ ได้ เช่น เศษผักอย่างหัวหอม เปลือกแครอท มันฝรั่ง ไปจนถึงกระดูกสัตว์และก้างปลา วัตถุดิบเหล่านี้สามารถนำมาใช้ต้มทำเป็นน้ำซุปหรือน้ำสต็อกได้ เพื่อนำมาปรุงอาหารในครั้งต่อไป ช่วยเพิ่มรสชาติ เพิ่มความเข้มข้นและกลมกล่อมให้กับอาหาร หรือคิดค้นเมนูที่จะใช้วัตถุดิบได้อย่างคุ้มค่าที่สุด โดยตัวอย่างไอเดียการใช้วัตถุดิบ3ให้คุ้มค่าเพื่อไม่ให้เกิดเศษอาหารเหลือ เช่น ร้านอาหารแห่งหนึ่งในเมืองยอร์ก สหราชอาณาจักร ที่นำเสนอเมนู “ไร้เศษเหลือทิ้ง” อันเป็นเอกลักษณ์ โดยใช้กากกาแฟเป็นตัวหมัก และเป็นเครื่องตกแต่งบนสเต็กเนื้อวัว เป็นต้น

2. อาหารเหลือยังขายได้

ที่มา: <a href="https://www.arizonafoothillsmagazine.com/taste/phoenix-food-and-restaurant-news/too-good-to-go-launches-in-phoenix-fighting-food-waste-with-delicious-deals">Arizona Foothills</a>, <a href="https://savvyinsomerset.com/ultimate-guide-to-buying-yellow-sticker-food/">Savvy in Somerset</a>&nbsp;
ที่มา: Arizona Foothills, Savvy in Somerset 

     อาหารที่เหลือจากบริการโดยที่ยังไม่มีผู้ใดรับประทาน หากจะทิ้งไปเฉย ๆ ก็สิ้นเปลืองเกินไป ในประเทศไทยก็มีหลายธุรกิจที่ใช้วิธีนี้ ที่เรารู้จักกันดีในนาม “อาหารป้ายเหลือง” ปัจจุบันมีแอปพลิเคชันหลายเจ้าที่พยายามจะแก้ไขปัญหา Food Waste ด้วยการเป็นตัวกลางในการแจกจ่ายอาหารเหลือจากร้านอาหารต่าง ๆ ให้แก่ผู้คน เช่น “Too Good To Go” ของสหราชอาณาจักร ที่เกิดขึ้นเพราะ “อาหารในร้านยังดีเกินกว่าทิ้ง” และเนื่องจากมีสถิติออกมาว่าร้านอาหารไทยในสหราชอาณาสร้างขยะอาหารจำนวนมาก ซึ่งอาหารเหลือทิ้งเหล่านั้นสามารถนำมารับประทานได้อีก 90,000 มื้อเลยทีเดียว โดยแอปฯ Too Good To Go จะช่วยให้ร้านอาหารที่เป็นพาร์ทเนอร์นำอาหารเหลือในแต่ละวันมาขายโดยลดราคาลงกว่าครึ่ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนมารับประทานอาหารจนลดจำนวนขยะอาหารลงได้ แอปฯ สามารถลดขยะอาหารไปได้มากกว่า 30 ล้านมื้อใน 3 ปีที่ก่อตั้ง นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก และเป็นต้นแบบการจัดการขยะอาหารให้หลายประเทศในยุโรป

3. ทำปุ๋ยอินทรีย์ สร้างพลังงานทดแทน

     สำหรับเศษอาหารเหลือจากการบริโภคและไม่สามารถบริโภคได้แล้ว เราสามารถนำมาทำปุ๋ยได้ โดยไม่จำเป็นต้องหมักปุ๋ยเอง แต่ใช้เครื่องทำปุ๋ยจากเศษอาหารที่สามารถย่อยสลายเศษอาหารภายใน 24 ชั่วโมงเพื่อประหยัดเวลา นอกจากนี้ยังสามารถนำเศษอาหารมาหมักเพื่อสร้างพลังงานทดแทนได้อีกด้วย ตัวอย่างธุรกิจที่มีการใช้วิธีนี้ในการจัดขยะ ได้แก่ “ปกาสัย รีสอร์ต” จังหวัดกระบี่ ที่มีการจัดการขยะอินทรีย์แต่ละแบบด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน เช่น นำเปลือกสับปะรดไปทำน้ำหมักชีวภาพ ขายเศษอาหารเหลือนำไปใช้ในการเลี้ยงสัตว์ และนำเศษอาหารเหลือมาผสมกับมูลของวัวที่หมักไว้แล้ว 15-20 วัน เพื่อทำเป็นปุ๋ยหมักและก๊าซชีวภาพ และนำก๊าซที่ได้มาเป็นเชื้อเพลิงในการประกอบอาหารต่อไป เรียกได้ว่าเป็นการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่าเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

4. ยกระดับรูปแบบการสั่งอาหาร

     เมื่อการสั่งอาหารแบบเดิมอาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป เพราะแต่ละบุคคลก็มีความต้องการบริโภคที่แตกต่างกัน เทรนด์ Personalized Food หรืออาหารเฉพาะบุคคลกำลังมาแรง ซึ่งส่วนใหญ่มักถูกใช้เพื่อสุขภาพ แต่รู้หรือไม่ว่าแนวคิดของเทรนด์นี้สามารถถูกนำมาใช้ในแง่ของการลดขยะอาหารได้ด้วย โดยผู้ประกอบการร้านอาหารอาจเปลี่ยนวิธีการสั่งอาหาร โดยให้เป็นการสั่งแบบเฉพาะเจาะจงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของปริมาณอาหาร เพื่อให้อาหารอยู่ในปริมาณที่พอดีกับความต้องการของผู้บริโภค อย่างไรก็ตาม วิธีการนี้อาจส่งผลให้การสั่งอาหารใช้เวลานานมากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการก็จำเป็นจะต้องออกแบบระบบการสั่งอาหารให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วทันใจผู้มาใช้บริการ โดยอาจใช้เทคโนโลยีอย่าง AI หรือ แชทบอทเข้ามาช่วยจัดการคำสั่งซื้อของผู้บริโภค เพื่อให้วิธีนี้ประสบผลสำเร็จได้ดี และช่วยลดโอกาสที่จะเกิด Overconsumption (การบริโภคมากเกินไป) ซึ่งนำไปสู่การเกิดขยะอาหารนั่นเอง

5. แจกจ่ายอาหารเหลือให้ชุมชน 

     ถึงแม้ว่าอาหารจะเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของมนุษย์ ทว่าผู้คนบางกลุ่มกลับไม่สามารถเข้าถึงแม้แต่อาหารอันเป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ได้ ธุรกิจอาหารมีแนวคิดว่าอาหารที่วางขายนั้นจะต้องสดใหม่ทุกวัน ทำให้ต้องทิ้งอาหารที่เหลือจากการขายในแต่ละวันเป็นจำนวนมหาศาล ในขณะเดียวกัน ปัจจุบันผู้คนกว่า 9.8% ของโลกประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร และมีแนวโน้มว่าจำนวนผู้คนที่กำลังอดอยากจะเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นอาหารที่เหลือจากการประกอบธุรกิจในแต่ละวันและยังรับประทานได้ก็สามารถนำไปแจกจ่ายให้แก่ชุมชนที่ขาดแคลนอาหารได้ เพื่อที่จะแก้ปัญหาได้ทั้งเรื่องขยะอาหาร ยังช่วยปัญหาการอดอยากในชุมชน ช่วยกระจายอาหารให้ผู้คนเข้าถึงได้มากขึ้นนั่นเอง 

     โดยสรุป ปัญหาขยะอาหารนั้นเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลกที่พวกเราทุกคนควรตระหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ประกอบการธุรกิจในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างธุรกิจการโรงแรมและร้านอาหาร ที่สร้างขยะอาหารอันก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยวิธีการจัดการกับขยะอาหารก็มีหลายวิธี ทั้งการใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบอาหารให้คุ้มค่าที่สุด นำไปขายเพื่อใช้ประโยชน์อื่น ๆ ต่อ เป็นอาหารสัตว์ ปุ๋ยอินทรีย์ ก๊าซชีวภาพ อีกทั้งยังมีวิธีปรับเปลี่ยนการสั่งอาหารให้เป็นแบบ Personalized เพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค และยังสามารถนำไปบริจาคให้แก่ผู้ที่ขาดแคลนอาหารได้ ปัญหาขยะอาหารเป็นเรื่องที่ใหญ่และใช้เวลานานในการแก้ไข แต่หากผู้ประกอบการธุรกิจร่วมด้วยช่วยกันตระหนักและมุ่งมั่นแก้ปัญหาอย่างตรงจุด การลดขยะอาหารนั้นก็สามารถทำได้สำเร็จอย่างไม่ยาก

 

ที่มา:

แชร์บทความนี้



บทความอื่นที่คุณอาจสนใจ

ทำความรู้จัก “Revive Tourism” เมื่อโลกถึงคราววิกฤติ เราจะ “เที่ยวชุบชีวิต” ได้อย่างไร
ทำความรู้จัก “Revive Tourism” เมื่อโลกถึงคราววิกฤติ เราจะ “เที่ยวชุบชีวิต” ได้อย่างไร
ส่องเทรนด์ “Sustaincular” จากทั่วทุกมุมโลก ในงาน Osaka Expo 2025
ส่องเทรนด์ “Sustaincular” จากทั่วทุกมุมโลก ในงาน Osaka Expo 2025
Sport Power Tourism ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้วย ‘พลังแห่งกีฬา’
Sport Power Tourism ขับเคลื่อนการท่องเที่ยวด้วย ‘พลังแห่งกีฬา’

ระบบเรียนออนไลน์

สมาชิก TAT ACADEMY สามารถเข้าถึงข้อมูลการท่องเที่ยวของประเทศไทย เช่น การสัมมนา การท่องเที่ยว กิจกรรม และข่าวสาร สำคัญต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย